วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week 5 ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่

สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอมาแนะนำการ์ตูนที่ค่อนข้างเก่านิดหนึ่ง แต่เชื่อว่าใครๆหลายคนน่าจะรู้จัก เพราะเป็นการ์ตูนถูกกลับมารีเมคใหม่ แถมการ์ตูนฉบับเก่ายังเคยถูกนำมาฉายในรายการโมเดิร์นไนน์การ์ตูนอีกด้วย การ์ตูนที่กำลังพูดถึงคืออะไร ลองดูภาพแล้วทายกันดูนะ






รู้กันหรือยังว่าเป็นการ์ตูนเรื่องอะไร งั้นมาดูเฉลยกันเลยดีกว่า การ์ตูนเรื่องนี้ชื่อว่า "ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่"  

ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่แจ้งเกิดเมื่อปี 2524 เป็นผลงานของ อากิระ โทริยาม่า ช่วงแรกที่ออกอากาศทางทีวี ผู้ให้เสียงพากย์อาราเล่คือ มามิ โคยามะ ส่วนคนต่อมาชื่อ ทาเอโกะ คาวะตะ

ตอนแรกในช่วงที่เป็นซีรีส์ทางทีวี อาราเล่ มีผมสีน้ำเงินม่วง จนมาเป็นการ์ตูนอานิเมะ ในปี 2540 สีผมเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลเข้ม

เรื่องราวของดร.สลัมป์ที่เป็นการ์ตูนมังงะ ที่เนื้อเรื่องเน้นไปที่การผจญภัยสนุกสนานและความห้าวแบบไร้เดียงสาของอาราเล่ นอกจากนี้ ยังมีตอนที่เชื่อมโยงกับการ์ตูนดราก้อนบอลอีกด้วย

ต่อมาจะมาแนะนำตัวการ์ตูนในเรื่องนี้กัน


 โนริมากิ เซมเบ้


ปี2524

ปี2540

เซมเบ้ หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า ดร.สลัมป์ นักวิทยาศาสตร์ที่คิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะ ผู้ให้กำเนิดอาราเล่และสิ่งประดิษฐ์อื่นๆที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ซักเท่าไหร่ เก่งในเรื่องหื่นมากที่สุด ความสามารถพิเศษที่ไม่เหมือนใครของเขาคือเขาสามารถเก๊กหน้าหล่อได้เป็นเวลานาน 3 นาที คำว่าเซมเบ้ เพี้ยนมาจากคำว่า'เซมเบะ' ซึ่งเป็นชื่อขนมของญี่ปุ่น


รูปตอนเก๊กหล่อ


 โนริมากิ อาราเล่


ปี2524

ปี2540

เป็นหุ่นยนต์แอนดรอยด์ล้ำยุคที่ ดร.สลัมป์สร้างขึ้น เนื่องจากสร้างหัวก่อน ทำให้อาราเล่เรียนรู้สิ่งต่างๆจากได้จากทีวีเท่านั้น การจ้องมองทีวีทั้งวันทั้งคืนเลยทำให้อาราเล่สายตาสั้น และชอบทำตัวรุนแรงเลียนแบบรายการมวยปล้ำในทีวี และยังชอบเล่นอุนจิอีกด้วย ความสามารถพิเศษของอาราเล่คือพลังอันแข็งแกร่งและวิ่งเร็วเหมือนติดเทอร์โบ ชื่ออาราเล่ตั้งมาจากชื่อขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายขนมเซมเบะแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งเป็นนัยว่าเป็นลูกของดร.เซมเบ้ ส่วนคำว่า โนริมากิ แปลว่า ‘ห่อด้วยสาหร่าย’
อุจิที่อาราเล่ชอบเล่นหน้าตาเป็นแบบนี้ไง



 โนริมากิ กาจิระ (กั๊ตจัง)


ปี2524

ปี2540

กั๊ตจังเป็นฝาแฝดทารก เกิดจากไข่ที่อาราเล่ได้จากไดโนเสาร์ระหว่างการผจญภัย ผมสีเขียว(ในปี2524 ปัจจุบันผมสีทอง)  มีปีกและเสาอากาศบนหัว พูดภาษาที่อาราเล่สามารถเข้าใจเพียงคนเดียวและกินได้หมดทุกอย่างที่ขวางหน้า เว้นแต่สิ่งของที่มียางเป็นส่วนประกอบ ชื่อกาจิระตั้งมาจากคำว่าก็อตซิลล่าในภาษาญี่ปุ่น



โอโบจามะ


ปี2524

ปี2540

เดิมชื่อว่า คาราเมลแมนเบอร์4 เป็นหุ่นยนต์ที่ดร. มาชิริโตะ ศัตรูอันดับหนึ่งของดร.เซมเบ้ สร้างขึ้นมา เพื่อกำจัดอาราเล่ ดร.มาชิริโตะสร้างหุ่นยนต์เพื่อกำจัดอาราเล่โดยอ้างว่า อาราเล่จะยึดครองโลก แต่โอโบจามะกลับตกหลุมรักอาราเล่ตั้งแต่แรกพบทำให้สับสน แต่ก็เข้าใจแล้วว่าอาราเล่ไม่ใช่คนร้ายแต่อย่างใด จึงไม่ทำอะไรกับอาราเล่ ทำให้ดร.มาชิริโตะไล่ออกจากบ้าน ทำให้เขาตัดสินใจมาสร้างบ้านเอง แต่เขาได้เห็นบ้านร้างอยู่หลังหนึ่งปัจจุบันโอโบจามะเอาบ้านคืนไปแล้วความจริงแล้วเป็นบ้านของซุปเปอร์แมนที่ไม่ได้ล็อกกลอนประตู ปัจจุบัน โอโบจามะ สร้างบ้านเป็นของตัวเองแล้วมาโอโบจามะนำบ้านหลังนั้นมาวางไว้ใกล้ๆกับบ้านของดร. เซมเบ้ กับอาราเล่ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น โอโบจามะ หลังจากนั้น โอโบจามะก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่อาราเล่อยู่ มีเพื่อนมากมาย ปัจจุบันยังชอบอาราเล่อยู่ มักจะเวะเวียนไปบ้าน ดร. เซมเบ้ อยู่บ่อยๆ



ยามาบุกิ มิโดริ 

ปี2524

ปี2540

มิโดริเป็นสาวสวยใจดี และรักเด็ก สอนหนังสือที่โรงเรียนให้กับเด็กในหมู่บ้านแพนกวิน(หมู่บ้านที่เซมเบ้กับอาราเล่อยู่) รวมทั้งสอนหนังสือให้ อาราเล่ ด้วย มิโดริแต่งงานกับ ดร.สลัมป์ และมีลูกชายหนึ่งคนที่ชื่อว่าเทอร์โบ



 คิมิโดริ อากาเนะ

ปี2524
ปี2540
อากาเนะ เพื่อนซี้ของอาราเล่ เป็นสาวซ่าประจำห้องเรียน ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง และมีปัญหากับตำรวจเป็นประจำ เวลาว่างหลังเลิกเรียนอากาเนะชอบไปเที่ยวกับแก๊งค์เด็กซ่า



 โซระมาเมะ พีสุเกะ

ปี2524

ปี2540

พีสุเกะเพื่อนร่วมห้องเรียนของอาราเล่ เป็นเด็กค่อนข้างจะขี้อาย ที่มักใส่หมวกเล็กๆ น่ารักๆ ตัวเล็กกว่าเด็กที่อายุเท่ากัน(ยกเว้นอาราเล่เพราะตัวเท่าๆกัน) และติดสอยห้อยตามพี่ชายที่ชื่อว่าทาโร่เป็นประจำ

 โซรามาเมะ ทาโร่
ปี2524

ปี2540

ทาโร่เป็นพี่ชายของพีสุเกะ ที่มักจะพยายามทำตัวเป็นหัวโจก ชอบแต่งตัวตามแฟชั่น และใส่แว่นตากันแดดคู่ใจอยู่เป็นประจำ

ราชานิโคจังและลูกน้อง


ปี2524

ปี2540

มนุษย์ต่างดาวจากดาวนิโคจังที่มาดาวโลกเพื่อมายึดครอง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ เพราะยานพังจึงต้องขายมันเผาหาเงินซิ้อยานอวกาศเพื่อกลับไปที่ดาวนิโคจังและยกกองทัพมายึดโลก ราชานิโคจัง(ตัวสีเขียว)และลูกน้องของเขา(ตัวสีเหลือง)มีรูปร่างลักษณะที่แปลกประหลาด ที่หัวเป็นก้น ตรงส้นเท้าเป็นหู มีจมูกยื่นออกมาเป็นเรดาร์เหนือหัวติดกับแก้มก้นพอดี


เนื้อเรื่องย่อ

เนื้อเรื่องตอนต้น
เรื่องเกิดขึ้นในหมู่บ้านเพนกวิน โดย ดร. เซมเบ้ หรือ ดร.โนริมากิ เซมเบ้ ซึ่งเป็นนักประดิษฐ์ ได้ทำการประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ที่ชื่อว่าโนริมากิ อาราเล่ขึ้นมา แต่ในเวอร์ชันใหม่นั้น ดร.สลัมป์ตั้งใจจะสร้างหุ่นยนต์คนใช้สุดสวย แต่ได้เกิดฟ้าผ่าขึ้น จนทำให้อุปกรณ์ได้รวนขึ้นมา แล้วสร้างหุ่นยนต์เด็กผู้หญิงมาแทน หลังจากนั้น ก็ได้พบกับไข่ในยุคไดโนเสาร์ ซึ่งฟักออกมาแล้วก็ได้เด็กผมสีเขียว (ในเวอร์ชันใหม่เป็นสีทอง) อาราเล่ได้ตั้งชื่อว่า"โนริมากิ กั๊ตซิลล่า"ซึ่งเป็นคำประสมระหว่าง ก็อตซิลล่ากับกาเมล่า โดยเรียกสั้นๆว่า"กั๊ตจัง"

เนื้อเรื่องตอนกลาง
ในช่วงนี้ โนริมากิ เซมเบ้ ได้แต่งงานกับยามาบุกิ มิโดริ เพราะการพูดขอแต่งงานเล่นๆของเซมเบ้ (แต่ในเวอร์ชันใหม่จะเป็นการซ้อมขอแต่งงานแทน) ซึ่งอาราเล่ได้ขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปลายไปด้วย โดยมีครูคนใหม่ที่หัวคล้ายลูกเกาลัดมาแทน (เพราะครูมิโดริจะสอนเฉพาะชั้นมัธยมต้นเท่านั้น) แล้ววันหนึ่ง อาราเล่ได้เห็นอะไรแปลกๆ จึงใช้ลำแสงดีจ้าใส่สิ่งนั้น ซึ่งก็คือยานอวกาศของครอบครัวซุนที่กำลังจะไปดวงจันทร์นั่นเอง(เวอร์ชันใหม่เตะลูกลักบี้ขึ้นฟ้าแล้วโดนยานแทน) ทำให้ยานอวกาศลำนั้นได้ตกไปที่ข้างๆบ้านของเซมเบ้ จึงทำให้ครอบครัวซุนกลายเป็นเพื่อนบ้านของเซมเบ้ไปโดยปริยาย

เนื้อเรื่องตอนปลาย
เป็นช่วงที่ดร.มาชิริโตะได้สร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนอาราเล่ทุกประการ (ยกเว้นเพศ,ความคิดและนิสัย) แล้วใช้ชื่อว่า"คาราเมลแมนหมายเลข4"(ดร.มาชิริโตะเคยสร้างหุ่นยนต์ตระกูล"คาราเมลแมน"มาแล้ว3ตัว) เพื่อกำจัดอาราเล่โดยอ้างว่า อาราเล่จะยึดครองโลก แต่คาราเมลแมนหมายเลข4กลับตกหลุมรักอาราเล่ทำให้สับสน แต่ก็เข้าใจแล้วว่าอาราเล่ไม่ใช่คนร้ายแต่อย่างใด จึงไม่ทำอะไรกับอาราเล่ ทำให้ดร.มาชิริโตะไล่ออกจากบ้าน ทำให้เขาตัดสินใจสร้างบ้านเอง แต่เขาได้เห็นบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง (ความจริงแล้วเป็นบ้านของซุปเปอร์แมนที่ไม่ได้ล็อกกลอนประตู) คาราเมลแมนหมายเลข4จึงนำบ้านหลังนั้นมาวางไว้ใกล้ๆกับบ้านของเซมเบ้ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น โอโบจามะ หลังจากนั้น โอโบจามะก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่อาราเล่อยู่ แล้วเป็นเพื่อนกัน


หลังจากที่เราดูตัวละครและเรื่องย่อไปแล้ว คนที่อยากดูและยังไม่ได้ดูก็สามารถหาดูได้จากเว็ปต่างๆ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยดูจากรายการโมเดิร์นไนน์การ์ตูนไปบ้างแล้วแหละ บางคนก็อาจจะรู้จักอาราเล่จากหมวกแบบนี้ 


แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วอาราเล่เป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่ง วันนี้ก็ได้รู้แล้ว ยังไงก็อย่าลืมไปหาดูกันนะ เป็นการ์ตูนที่สนุกและตลกมากจริงๆ ดูแล้วขำจนน้ำตาไหลเลย  (ขอโฆษณาหน่อย เพราะมันสนุกจริงๆ555)
อย่าลืมนะ ดร.สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่ สนุกไม่แพ้การ์ตูนเรื่องอื่นเลย





บ๊ายบาย





อ้างอิง
http://cartoon.mthai.com/character/1800.html
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%A3.%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B9%8C_%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week4 : โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ C#

วันนี้จะขอมาแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาC# แต่ก่อนอื่นเราว่าดูประวัติของภาษาCกันก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่องภาษาC#กันเถอะ



ประวัติภาษาC

ภาษาซีเป็นภาษาที่ถือว่าเป็นทั้งภาษาระดับสูงและระดับต่ำ ถูกพัฒนาโดยเดนนิส ริดชีโดยเดนนิส
ได้ใช้หลักการของภาษา บีซีพีแอล (BCPL : Basic Combine Programming Language) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเคน ทอมสัน การออกแบบและพัฒนาภาษาซีของเดนนิส ริดชี มีจุดมุ่งหมายให้เป็นภาษาสำหรับใช้เขียนโปรแกรมปฏิบัติการระบบยูนิกซ์ และได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่า ซี (C) เป็นตัวอักษรต่อจากบี (B) ของภาษา BCPL ภาษาซีถือว่าเป็นภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำ

Dennis Ritchie




ทำไมภาษาCจึงจัดว่าเป็นภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำ

เพราะภาษาซีมีวิธีใช้ข้อมูลและมีโครงสร้างการควบคุมการทำงานของโปรแกรมเป็นอย่างเดียวกับภาษาของโปรแกรมระดับสูงอื่นๆ จึงถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ในด้านที่ถือว่าภาษาซีเป็นภาษาระดับต่ำ เพราะภาษาซีมีวิธีการเข้าถึงในระดับต่ำที่สุดของฮาร์ดแวร์ ความสามารถทั้งสองด้านของภาษานี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ความสามารถระดับต่ำทำให้ภาษาซีสามารถใช้เฉพาะเครื่องได้ และความสามารถระดับสูง ทำให้ภาษาซีเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ ภาษาซีสามารถสร้างรหัสภาษาเครื่องซึ่งตรงกับชนิดของข้อมูลนั้นได้เอง ทำให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซีที่เขียนบนเครื่องหนึ่ง สามารถนำไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่งได้ ประกอบกับการใช้พอยน์เตอร์ในภาษาซี นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์



จาก C สู่ C++
       ถูกพัฒนาโดย Bjarne Stroustrup แห่ง Bell Labs โดยได้นำเอาภาษา C มาพัฒนาและใส่แนวคิดการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือ OOP (Object Oriented Programming)เข้าไปด้วย ซึ่งเป็นที่มาของ C++ ก็คือ นำภาษา C มาพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


Bjarne Stroustrup



หลังจากที่เราได้ศึกษาประวัติของภาษาCมาแล้ว ต่อมาเรามาศึกษาภาษาC#กันต่อไปเลยดีกว่า...

ภาษา C#
ภาษา C# (ซี-ชาร์ป) เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ใช้สาหรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์1 ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน และเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสาหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจที่จะเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งภาษา C# ถูกพัฒนามาจากภาษา C++ (ซี-พลัสพลัส) และมีโครงสร้างแบบเชิงวัตถุ (object-oriented programming) โดยใช้ Visual Studio (วิชวล-สตูดิโอ) เป็นเครื่องมือสาหรับพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Visual Studio เป็นเครื่องมือที่คอยอานวยความสะดวกในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทาให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ไม่ยากนัก



ข้อดีของภาษาC#

1. เป็นภาษาที่เขียนง่าย ไม่ซับซ้อนและเรียบง่าย เพราะคล้ายภาษา Java ภาษา C และ ภาษา C++ ทำให้หลายคนเข้าใจได้ไม่ยาก

2. เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ภายใต้แนวคิด .NET Framework ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปัจจุบัน

3. เป็นภาษาที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานบน .NET Framework (ดอตเน็ต-เฟรมเวิร์ก) โดย .NET Framework เป็นรูปแบบในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ซึ่งบริษัทไมโครซอพท์เป็นผู้พัฒนา ซึ่งคุณสมบัติที่สาคัญของ .NET Framework ก็คือ ผู้ใช้งานสามารถใช้งานบนระบบฮาร์ดแวร์ (Hardware) หรือ ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ที่แตกต่างกันได้อย่างไม่มีปัญหา เช่น เครื่องพีซีกับเครื่องแมคหรือ ระบบปฏิบัติการวินโดว์กับระบบปฏิบัติการแมคอินทอช เป็นต้น ดังนั้น ผู้เขียนโปรแกรมจึงสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ๆ ได้โดยง่าย รวดเร็ว และไม่ต้องติดข้อจากัดต่างๆ อย่างเช่นการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในสมัยก่อนอีกต่อไป

4. เป็นภาษาที่แข็งแกร่ง เพราะเป็นภาษาที่ได้มีการแก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างของภาษา Java ภาษา C และ ภาษา C++ เหล่านั้น ทาให้ ภาษา C# เป็นภาษาที่มีความสมบูรณ์ตามแบบฉบับของโครงสร้างแบบเชิงวัตถุ(object-oriented programming)



เปรียบเทียบภาษา C# กับภาษาอื่นๆ
     1.ถ้าพูดถึงความใกล้เคียงกับภาษาอื่นๆ ภาษา C# ใกล้เคียงกับภาษา Java มากที่สุด โดยมีความเหมือนกันถึง 70% ดั้งนั้นนักเขียนโปรแกรมภาษา Java จึงอาจย้ายมาเขียนภาษา C# ได้โดยศึกษาว่ามีสิ่งใดที่แตกต่างกันบ้าง ภาษา C# ยังมีความคล้ายคลึงกับภาษ C++.NET และภาษา VB.NET เป็นอย่างมาก ทำให้นักเขียนโปรแกรมภาษา C# สามารถอ่าน-เขียนโค้ดในภาษากลุ่มนี้ได้เมื่อฝึกฝนเพียงเล็กน้อย 
     2.C# และภาษา Java ทั้งคู่เป็นแบบสืบจากคลาสหลักได้คลาสเดียว ขณะที่ภาษา C++ สามารถสืบจากคลาสหลักได้มากกว่าหนึ่ง (Multiple inheritance) โดยภาษา C# และภาษา Java ใช้ Interface มาทดแทน Multiple inheritance เหมือนกันทั้งคู่
     3.สิ่งที่ภาษา C# และ Java มีร่วมกันคือเรื่อง Garbage Collection แต่ไม่มีใน C++ จึงทำให้ดูเหมือนว่าภาษา Java ต่อยอดมาจากภาษา C++ และ C# ต่อยอดมาจาก Java อีกที ที่เป็นเช่นนั้นเพราะทั้ง Java และ C# มีต้นสายมาจาก C++ ทำให้สองภาษานี้ดูคล้ายกัน แต่ภาษา C# ไม่ใช่ภาษา Java มันมีกลไกที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่าง เช่น พารามิเตอร์แบบ reference และ output การจัดเก็บ object ไว้ใน stack (struct) การทำ Versioning และยังมีสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นข้อดี เช่น delegate, properties และ operator overloading ซึ่งจะไม่พบในภาษา Java




  






โครงสร้างโปรแกรมภาษา C#
            โครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐานจะประกอบด้วยส่วนของโปรแกรมหลักแต่จะไม่มีส่วนของโปรแกรมย่อย (subroutine) โดยแสดงดังรูปที่ 1

                  

รูปที่ 1 โครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน

จากรูปที่ 1 แสดงโครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน โดยมีรายละเอียดดังนี้


            1. หมายเลข (1) เป็นการระบุชื่อของ namespace ซึ่งใช้ในการกาหนดขอบเขตให้กับคลาสต่างๆรวมถึงใช้ในการจัดโครงสร้างของโปรแกรมขนาดใหญ่ให้เป็นสัดส่วนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนโดยมีผู้เขียนโปรแกรมหลายคน นอกจากนี้ การกาหนด namespace ยังช่วยป้องกันปัญหาการตั้งชื่อคลาสหรือค่าคงที่อื่นๆ ซ้ากันได้
            2. หมายเลข (2) เป็นการระบุชื่อของ class
            3. หมายเลข (3) เป็นการะบุพื้นที่สำหรับคำสั่งต่างๆ ที่ผู้เขียนโปรแกรมต้องการให้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติตาม

            นอกจากนี้ ในบางกรณี ผู้เขียนโปรแกรมสามารถที่จะไม่เขียนในส่วนของ namespace ได้ ถ้าโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นมีขนาดเล็ก และ ไม่ซับซ้อนมากนัก ซึ่งการที่ไม่เขียนในส่วนของ namespace จะถือว่า class ที่ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ใน namespace กลาง โดยแสดงดังรูปที่ 2


รูปที่ 2 โครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน กรณีไม่เขียนในส่วนของ namespace

ตัวอย่าง โครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะแสดงข้อความ Hello C# ออกทางจอภาพ และจากนั้นรอจนกว่าผู้ใช้งานจะกด Enter แล้วจบการทางาน
กรณีที่ 1 เขียนในส่วนของ namespace โดยแสดงดังรูปที่ 3


รูปที่ 3 ตัวอย่างโครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน กรณีเขียนในส่วนของ namespace

กรณีที่ 2 ไม่เขียนในส่วนของ namespace โดยแสดงดังรูปที่ 4



รูปที่ 4 ตัวอย่างโครงสร้างโปรแกรมภาษา C# ขั้นพื้นฐาน กรณีไม่เขียนในส่วนของ namespace



หลังจากที่เราได้ศึกษาภาษาC#บางส่วนไปแล้ว ก็หวังว่าจะเข้าใจเรื่องราวของภาษาC#กันมากขึ้นนะคะ


https://sites.google.com/site/programmingm42/phasa-c
http://www.vcharkarn.com/blog/43670/17073

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


        Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย  ผ่านผู้ให้บริการด้านSocial Network บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์  ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์  ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของ Social Network ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ

        



พฤติกรรมการใช้งาน Social Network ของคนไทย

          พฤติกรรมของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ปรับเปลี่ยนจากการรับข่าวสารจาก Portral Site มาเป็นSocial Network เว็บไซต์ เริ่มเด่นชัดตั้งแต่ช่วงปี 2007 หรือ พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีผลการศึกษาพบว่าประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ใช้งานSocial Network ใช้เพื่ออัพเดตข้อมูลข่าวสาร และอีก 1 ใน 3 เพื่อคุยกับเพื่อนและคนรู้จัก นั่นสะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่าผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ติดตามข่าวสารจากSocial Network มากขึ้น


10 ภัยอันตรายจาก Social Network ที่ควรระวัง

1. หลอกว่ามาดีแต่จริงๆประสงค์ร้าย 
              การโจมตีแบบนี้ เป็นหนึ่งในวิธีการที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เน้นการโจมตีที่ตัวบุคคล โดยผู้ใช้งานมักจะคาดไม่ถึง และ ตกเป็น เหยื่อในที่สุด ส่วนมากจะมาในรูปแบบของ แอพพลิเคชั่นบน Facebook หรือการเล่นเกมเพื่อแลกของรางวัล เมื่อผู้ใช้งานคลิกเข้าไปใช้ งานแอพพลิเคชั่นหรือร่วมเล่นเกมดังกล่าว ก็จะตกเป็นเหยื่อของพวกอาชญากรโดยไม่ทันตั้งตัว
2. ล่อเหยื่อตกปลาออนไลน์
              ในอดีต เป็นเทคนิคการล่อลวงที่มักจะส่ง URL Link ที่ล่อให้ไปเข้าเว็บไซด์ปลอม ที่ส่งมาทางอีเมล โดยอาชญากร จะหลอกให้ผู้ใช้งานคลิก URL Link ที่อยู่ในอีเมล แต่ปัจจุบันอาชญากรจะส่ง URL Link ที่ย่อให้สั้นลง (URL Shorten) เช่น คลิปวิดีโอหรือไฟล์ของรูปภาพ และนำไปสู่เว็บไซด์ปลอม เพื่อดักขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่านทางสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น     
3. โค้ดร้ายฝังลึก        
              เป็นเทคนิคการโจมตีผู้ใช้งาน Facebook โดยอาชญากรจะทำการฝังโค้ด หรือสคริปต์การทำงานของตนเองเข้าไปบนหน้าเว็บไซด์ที่มีช่องโหว่ ซึ่งข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ Facebook เช่น Username และ Password จะถูกส่งกลับมาให้อาชญากร แทนที่จะผ่านเข้าไปในเว็บไซด์ที่ผู้ใช้ Facebook กำลังเยี่ยมชมอยู่
4. ถูกสวมรอยง่ายๆ แค่เล่น Facebook อย่างไม่ระวัง
              เป็นวิธีการที่อาชญากรใช้ในการโจมตีผู้ใช้ Facebook หรือ Internet Banking โดยการแอบขโมยสิทธิ หรือ Credential ที่ผู้ใช้ได้ล็อกอินเว็บไซด์ ค้างไว้ ซึ่งอาชญากรอาจนำ Credential ของเราไปใช้งานต่อ เช่น ทำการโอนเงินออก จากบัญชีของผู้ใช้งานระบบ Internet Banking โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เป็นต้น
5.หลอกให้คลิกแต่แอบซ่อนมีดไว้รอเชือด
              เป็นเทคนิคการโจมตีผู้ใช้งาน โดยหลอกให้คลิกรูป ที่ดูล่อตาล่อใจบนเว็บไซด์ ซึ่งอาชญากรจะแอบซ่อน Invisible frame ไว้หลังรูป เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างที่เหยื่อไม่รู้ตัวเลยว่ามี Script มุ่งร้ายแอบซ่อนอยู่
6. โดนหลอกล่อให้ไปเจอ Link ที่อาชญากร รออยู่ 
              ผู้ใช้งาน Facebook อาจถูกโจมตี ด้วยโปรแกรมประสงค์ร้าย ที่สามารถทำการติดตั้งลงบนเครื่อง ของผู้ใช้งาน Facebook เพียงแค่ผู้ใช้งานเข้าไปเยี่ยมเว็บไซด์ ที่อาชญากรโพสต์ เป็น Link ล่อเหยื่อไว้บน Facebook Page และผู้ใช้งาน เผลอดาวน์โหลดโดยไม่รู้ตัว
7. เทคนิคการโจรกรรมข้อมูลขั้นสูงแบบต่อเนื่อง
   
              เป็นเทคนิคการโจมตีขั้นสูงที่มุ่งเน้นเป้าหมายผู้ใช้งาน Internet Banking ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในระดับองค์กร หรือ รัฐบาล โดยอาชญากรสามารถฝังโปรแกรมมุ่งร้าย เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของเป้าหมาย เพื่อแอบโจรกรรมข้อมูลลับ อย่างต่อ เนื่อง เป็นระยะเวลานาน ซึ่งยากต่อการตรวจสอบด้วยโปรแกรม Anti-virus ทั่วไป
              สำหรับ MitB (Man-In-The-Browser Attack) เป็นเทคนิคในการโจมตีที่หลัง Browser ของเหยื่อ มักจะใช้ในการ ทำ Indentity Theft ด้วยเทคนิค Web Field Injection
8. โดนดักข้อมูลลับระหว่างทาง 
              เป็นเทคนิคการโจมตีผู้ใช้งาน Facebook โดยอาชญากรจะทำการดักจับข้อมูลที่ส่งไปมาระหว่างผู้ใช้งาน Facebook กับ   www.facebook.com   แบบเงียบ เพื่อขโมย Username และ Password ของผู้ใช้ และอาจลุกลามไปถึง E-mail Accountด้วย ถ้าใช้ Username และ Password เดียวกัน กับ Facebook
9. บอกเพื่อนว่าเราอยู่ไหน (บอกโจรว่าเราไม่อยู่บ้าน)
              การใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Twitter นั้น อาจทำให้ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบัน (GPS Location) ของผู้ใช้งาน Facebook หรือ Twitter สามารถถูกเปิดเผยสู่สาธารณะได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว จากการใช้งานโปรแกรม ประเภท Foursquare, Google Latitude และ Facebook Place
10. ระวังข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่วขณะเล่น Facebook เพลินๆ
              ข้อมูลส่วนต้วของผู้ใช้ Facebook อาจถูกเปิดเผยสู่สาธารณะได้ ถ้าผู้ใช้งาน Facebook ไม่ได้ปรับแก้การตั้งค่าแบบDefault ให้เป็นแบบที่ปลอดภัยมากขึ้น





ทำไมSocial Network ถึงกลายมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดยอดนิยมได้

          เนื่องจากการโฆษณาผ่านSocial Network นั้นต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิผลสูง หรือหมายถึงมีประสิทธิภาพในการโฆษณาสูงมาก สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง และกระจายการรับรู้ได้รวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต่างให้ความสนใจ โดยระยะแรกนั้นธุรกิจที่มีขนาดเล็ก มีเงินลงทุนน้อยได้ทดลองใช้งานก่อน และเมื่อประสบความสำเร็จ ก็ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่ต้องลงมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Network ควบคู่ไปกับสื่อโฆษณาที่เป็น mass marketing อื่นๆ
สำหรับคุณผู้อ่านที่คิดจะลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Network  microBrand จะนำเสนอในโอกาสหน้าว่า Social Network แต่ละประเภทที่เราได้นำเสนอ ประเภทไหนเหมาะสำหรับอะไร และใช้งานอย่างไร นอกจากนั้น microBrand จะพยายามสรรหาแง่มุมอื่นๆ ของ Social Network มานำเสนอให้คุณๆ ได้อ่านกันอีก








อย่างไรก็ตาม การใช้Social Network มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ให้เป็นประโยชน์ หรือส่งผลเสียต่อเรา เราจึงควรคำนึงถึงการใช้Social Network ไม่ให้มากหรือน้อยจนเกินไป  หรือใช้Social Network มากเกินจนทำให้เราเสียเวลากับมันโดยที่เราไม่ได้มีเวลาให้กับสิ่งอื่น


วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แนะนำร้านอาหาร

วันนี้จะขอมาแนะนำร้านอาหารจากทั่วทุกที่ของประเทศที่เขาว่ากันว่า อร่อยสุดๆ เด็ดสุดๆ รับรองว่าใครเปิดอ่านตอนดึกๆจะต้องหิวแน่ๆ 555  เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีร้านอาหารที่เพื่อนๆเคยเข้ากันหรือเปล่า



Bottoms Up wine beer & Bistro Bar


ขอเริ่มต้นด้วยร้านอาหารแนวอิตาเลี่ยนที่ดูหรูหราสักหน่อย เผื่อใครอยากจะลองไปแล้วอัพรูปลงโซเชียลจนเพื่อนๆต้องอิจฉา อย่างBottoms Up wine beer & Bistro Bar ร้านอิตาเลี่ยนกลางซอยทองหล่อ กับบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอาร์ตแกลอรี่ และด้วยความเป็น Wine Beer & Bistro Bar นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว เครื่องดื่มที่นี่ก็เด่นไม่แพ้กัน


ขอเริ่มด้วย Grilled Lamb with Balsamic mixed herbs Reduction ซี่โครงแกะเนื้อนุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศ


จานนี้มาในสไตล์ญี่ปุ่น ทูน่าชิ้นหนากริลล์มากำลังพอดี Seared Tuna Skewer Japanese Style


ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว


จากร้านอาหารหรูๆ ก็ขอปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นร้านอาหารธรรมดาๆแต่รสชาติไม่ธรรมดา อย่างก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว ที่บอกว่ารสชาติไม่ธรรมดาเพราะว่าได้รับการการันตีจากร้านการอาหารชื่อดัง "เปรี้ยวปาก" ด้วย แน่นนอนว่ารสชาติต้องเด็ดไม่แพ้ร้านหรูๆแน่ ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มีบรรยากาศร้านที่เปิดโล่ง ตกแต่งร้านเรียบง่ายเป็นกันเอง


บริการก๋วยเตี๋ยวต้มยำนัว รสเด็ด สูตรดั้งเดิม เพราะทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบที่สด ใหม่ ทำให้รสชาติอร่อยเกินห้ามใจ


และที่พิเศษกว่าร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไปคือร้านนี้มีเซียมซีใต้จานอาหาร!! คุณสามารถเสี่ยงทายดวงชะตาหรือโชคลาภแบบคาดไม่ถึง ใครจะดวงดีหรือไม่ดีก็ลุ้นกันไปสนุกสนานกันเลยทีเดียว


Gyunobi Yakiniku
หลังจากไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนัวกันมาแล้ว เรามาต่อกันที่ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นน่ารักๆ เหมาะแก่การหยิบสมาร์ทโฟนมาแชะภาพอัพลงโซเชียลหลายๆรูป อย่างร้านGyunobi Yakiniku 



ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นน้องใหม่ บรรยากาศสบายๆ ทางร้านใช้ตัวการ์ตูนจากเรื่องโดเรมอนมาเป็นจุดเด่นของร้าน 



นอกจากบรรยากาศที่น่าถ่ายรูปมากๆแล้ว การเลือกวัตถุดิบของทางร้านก็ไม่น้อยน่า ทางร้านจะคัดสรรวัถุดิบมาอย่างดี การบริการก็เป็นกันเองด้วย

 



ร้านอาหาร ทุ่งคากาแฟ

เรามาเปลี่ยนบรรยาาศมาเป็นร้านน้ำสุคชิคกันบ้างดีกว่า หลังจากที่ผ่านมามีแต่ร้านอาหารทั้งนั้นเลย


นั่งรับบรรกาศดีๆ ชิลล์ๆ พร้อมกับจิบเครื่องแสนอร่อยไปด้วย คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่านี้แล้วล่ะ


ร้านทุ่งคากาแฟ ไม่ได้เป็นร้านกาแฟอย่างเดียว แต่เป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบ ที่เหมาะกับการทานอาหารพร้อมซึมซับบรรยากาศสวยๆวิวทิวทิศน์ของภูเขาที่อยู่ล้อมรอบ มองไปไกลจนสุดสายตา สร้างความสุนทรีระหว่างการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก วิวทิวทิศน์ของภูเขาที่อยู่ล้อมรอบ มองไปไกลจนสุดสายตา สร้างความสุนทรีระหว่างการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก


















ข้าวมันไก่มงคลวัฒนา

เรามาต่อกันที่อาหารหนักๆแสนอร่อยที่เชื่อว่าเป็นของโปรดของใครหลายๆคนอย่างข้าวมันไก่กันบ้างดีกว่า


มงคลวัฒนา ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 30 ปี การันตีความอร่อยได้จากป้ายรับรองต่างๆ บรรยากาศภายในร้านเป็นกันเอง สบายๆ มีเมนูทั้งข้าว และก๋วยเตี๋ยวไว้บริการ



















Okashi By Poonni

เรามาต่อันที่ร้านขนมหวานน่ารักๆกันบ้างดีกว่า  



Okashi By Poonni ร้านเค้กสไตล์ญี่ปุ่น โดยสโลแกน Fresh & Natural Premium Cake คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน เมนูเค้กต่างๆ จะสวยงามน่ารัก เนื้อเค้กละเอียดเบานุ่มลิ้น รวมถึงซอสผลไม้ เป็นสูตรของทางร้าน รสชาติไม่หวานมาก เย้ายวนด้วยกลิ่นผลไม้ ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย





The Chocolate Tales

The Chocolate Tales ร้านที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ 



ชื่อร้านมาจากการที่เจ้าของร้านชอบทำขนม และได้คิดสูตรช็อกโกแลตเค้กขึ้นมาจนกลายเป็นที่ชื่นชอบ และทำขายในช่วงเทศกาลแล้วเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้า จึงกลายเป็นที่มาของร้านแห่งนี้ที่เปิดความอร่อยมาแล้วหลายปี ภายในร้านตกแต่งในสไตล์ Homey คือเป็นแบบบ้านๆ สบายๆ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ออกโทนอบอุ่น ซึ่งนำมาผสมผสานกันระหว่างของใช้ในบ้าน และของมือสอง แถมด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้กลายมาเป็นคาเฟ่กึ่งแกลเลอรี่อาร์ต ด้วยการมีนิทรรศการหมุนเวียนรวมทั้งเปิดคลาสสอนวาดภาพอีกด้วย 



และแน่นอนว่าหากมาที่ The Chocolate Tales แล้ว จะต้องไม่พลาดเมนูเด็ดของร้านนั่นคือ Classic Chocolate Cake เค้กช็อกโกแลตเนื้อแน่นสลับชั้นกับครีมช็อกโกแลต จะต้องไม่พลาดเมนูเด็ดของร้านนั่นคือ Classic Chocolate Cake เค้กช็อกโกแลตเนื้อแน่นสลับชั้นกับครีมช็อกโกแลต




คุณอ้อ ส้มตำสามรสหลังมช. (ส้มตำสามรส)

สุดทายนี้ขอไปร้านแซหลังมช.กันบ้างดีกว่า เรามาแอ่วเหนือเพื่อไปทานอาหารอิสานแซบหลายกันเถอะ555



ชื่อร้านก็บอกแล้วว่าส้มตำสามรสรับกันได้เลยว่าตำแล้วแซบทุกเมนูไม่ว่าจะเป็นตำปู, ตำไทย, ตำลาว, ตำเจ . ตำกระท้อนและตำอื่น ๆ รวมไปถึงอาหารอีสานก็มีให้เลือกสั่งกันแบบครบ ๆ หรือจะเป็นอาหารจานเดียวก็สั่งได้ตามชอบ 



ขอแนะนำเมนูเด็ดของที่นี่คือ ไก่ย่างน้ำผึงนั่นเอง 




เป็นยังไงกันบ้างกับร้านอาหารที่ได้แนะนำไป ถ้าร้านที่ได้แนะนำอยู่แถวบ้านเพื่อนๆ ก็ลงเข้าไปทานกันดูนะ แล้วรสชาติเป็นไงก็มาเม้นตอบกันบ้างนะ  หรือถ้ามีร้านอาหารที่ชอบมากๆ อร่อยมากๆ อยากแนะนำให้มากินก็สามารถเม้นบอกได้นะ


อ้างอิงจาก


http://www.trendzap.com/reviews/1841-Bottoms-Up-Wine-Beer-Bistro-Bar
http://www.edtguide.com